รัฐบาลเผด็จการทหารส่วนมากจัดตั้งหลักจากรัฐประหารซึ่งล้มล้างอำนาจรัฐบาลชุดก่อนหน้า ตัวอย่างที่แตกต่างออกไปคือระบอบการปกครองซัดดัม ฮุสเซนในประเทศอิรักซึ่งเริ่มจากรัฐที่ปกครองโดยรัฐบาลพรรคเดียวโดยพรรคบะอัธ แต่เมื่อเวลาผ่านไปรัฐบาลดังกล่าวเปลี่ยนไปเป็นเผด็จการทหาร (ตามที่ผู้นำสวมเครื่องแบบทหารและกองทัพก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในรัฐบาล)
ในอดีต เผด็จการทหารมักจะอ้างความชอบธรรมให้แก่พวกเขาเองว่าเป็นการสร้างความสมานฉันท์แก่ชาติ และช่วยชาติให้พ้นจากภัยคุกคามของ "อุดมการณ์ที่อันตราย" อันเป็นการสร้างการข่มขวัญ ในละตินอเมริกา ภัยคุกคามจากลัทธิคอมมิวนิสต์และ ทุนนิยม ถูกนำเป็นข้ออ้างในการรัฐประหาร คณะทหารมักจะกล่าวว่าพวกเขาเป็นพวกไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองใด เป็นคณะที่มีความเป็นกลาง สามารถจัดการกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆได้ และกล่าวว่านักการเมืองที่มาจากประชาชนนั้นคดโกงและไร้ประสิทธิภาพ ลักษณะร่วมประการหนึ่งของรัฐบาลทหาร คือการประกาศใช้กฎอัยการศึก หรือการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
รัฐบาลทหารมักจะไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชน และมักใช้วิธีการปิดปากศัตรูทางการเมือง รัฐบาลทหารมักจะไม่คืนอำนาจจนกว่าจะมีการปฏิวัติโดยประชาชน
ละตินอเมริกา, อัฟริกา และ ตะวันออกกลาง เป็นพื้นที่ที่เป็นเผด็จการทหารบ่อยครั้ง เหตุผลหนึ่งคือทหารมีการประสานงานร่วมกัน และมีโครงสร้างของสถาบันที่เข้มแข็งกว่าสถาบันทางสังคมของประชาชน
ตั้งแต่ทศวรรษที่ 199 เผด็จการทหารเริ่มลดลง เหตุผลหนึ่งมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า เผด็จการทหารไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ และรัฐบาลทหารมักไม่ประสบความสำเร็จในการควบคุมประเทศไม่ให้เกิดการต่อต้านได้ นอกจากนี้ การสิ้นสุดสงครามเย็นที่มีผลให้สหภาพโซเวียตสลายตัว ทำให้ทหารไม่สามารถใช้ข้ออ้างเรื่องลัทธิคอมมิวนิสต์ในการอ้างความชอบธรรมของตนเองได้อีกต่อไป
by วิกิพีเดีย
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
จะแตกเมื่อไหร่ (โลก)
ปัญหาสภาพแวดล้อมในเมืองไทยและรวมถึงโลก ในปัจจุบันนี้ เป็นปัญหาที่สำคัญมากมีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ผิดฤดูกาล อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน มีด้วยกันหลายสาเหตุ แต่ผมจะพูดถึงเรื่อง อย่างการที่เมืองไทยมีรถมากและทำให้เกิดมลภาวะ ท่อไอเสียจากรถยนต์ก็มีส่วนที่ทำไห้อากาศร้อนขึ้น เป็นเพราะการที่มีโปรโมชั่นมากมาย ถ้าคุณมีเงินน้อยก็สามารถออกรถใด้ และมีแบบผ่อนนาน 84 เดือน หรือดอกเบี้ย 0 % ยิ่งทำไห้คนออกรถมากขึ้นเพราะมีสิ่งจูงใจเหล่านี้ มลภาวะเกิด เสียค่าน้ำมันอีก และน้ำมันก็ต้องนำเข้าจากต่างประเทศยิ่งตอนนี้น้ำมันก็แพง นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อากาศกับอุณภูมิโลกสูงขึ้น เพราะทรัพยากรเริ่มน้อยลงทุกทีบางอย่างก็ปลูกทดแทนไม่ใด้ ถ้าเป็นต้นไม้ก็คงโตไม่ทันเพราะคนที่ต้องการใช้มีจำนวนมาก น้ำแข้งแถบขั้วโลกเริ่มละลายมากขึ้นทุกวัน เมื่อไม่นานก็เพิ่งมีข่าวว่า หิมะตกที่ประเทศแอฟริกา มีน้ำท่วมในหลายประเทศ อากาศร้อนมากและในยุโรปอากาศร้อนกว่าเมืองไทยแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นใด้กับประเทศที่ร้อนขนาดนั้น และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ยังไม่ใด้พูดถึง การมีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะคิดว่าคุณโก้หรู แต่ถ้ามันไม่จำเป็นก็ไม่ควรมีเพราะมันก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ไม่มากก็น้อย ที่ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี ถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกัน ถึงทำให้โลกเป็นแบบเดิมไม่ได้ แต่เราก็ไม่ควรทำให้โลกของเราแย่ไปกว่านี้
by air
by air
วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
ล่องโลกาภิวัฒน์
ในมุมมองของผม เรื่องล่องโลกาภิวัฒน์ ผมคิดว่าการเมืองและประชาธิปไตย ในสมัยนี้ และที่ผ่านมา ไม่ใช่ประชาธิปไตย จริงๆ จะอยู่ในรูปแบบของการที่มีนายทุน จะมีอำนาจ ที่สามารถจะสั่งให้ใครทำอะไรเพื่อที่จะได้ผลประโยชน์ในทางธุรกิจ และคอย เชิดหุ่น อยู่หลังฉาก โดยที่เลือกคนเข้าไปบริหารงานในรัฐ หรือ ประชาธิปไตยแบบตัวแทน เรียกอีกอย่างว่าประชาธิปไตยทางอ้อม การที่จะเลือกคนเข้าไปนั้นคนเดียวไม่สามารถทำได้ ฉะนั้นก็จะต้องซื้อเสียง โดยที่นายทุนจะให้เงินมา และไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านเพื่อมาเลือกตั้งเองเข้าไปเพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนประชาชน แต่ในทางความเป็นจริงแล้วเขากับเข้าไปเพื่อที่จะหาผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องมากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวม อีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น คือการที่ไห้เงินไปไช้จ่าย แต่ไม่ได้ไห้อำนาจไปจัดการเอง ก็คือคนส่วนบนสั่งให้ทำอะไรก็ทำตามนั้น อำนาจก็ยังอยู่ที่ส่วนบนอยู่ดี เหมือนกับเป็นทาสเขาเป็นแค่เครื่องมือให้เท่านั้น ถึงยังไม่เจริญสักที เพราะผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับคนส่วนบน บางคนเข้ามาทำงานแบบจริงๆ ที่ไม่เอาผลประโยชน์แต่อย่างใดแต่กลับต้องมาเป็นหุ่นเชิดให้เขา ถ้าไม่ทำก็ต้องโดนออก ในรูปแบบนี้จะไม่ได้อยู่แค่ในท้องถิ่นเท่านั้น ในเมืองก็มี และเยอะมาก แทบจะทั้งหมดก็ว่าใด้ ผมคิดว่า คนที่คอรัปชั่น การรับเงินสินบน ในทั้งหมดที่ใด้เลือกเข้าไปนั้น มีมากกว่า 90%เลยทีเดียว
เมืองไทยควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องอย่างจริงจังสักที ที่สำคัญที่ลืมไม่ใด้เลยคือข้อกฏหมายในการกระทำผิด และการคอรัปชั่น น่าจะมีบทลงโทษที่เด็ดขาด ไม่มีการผ่อนปรนแต่อย่างใด ไม่มีการว่าเป็นใหญ่เป็นโต หรือ เป็นลูกนักการเมืองเก่า หรือใครก็แล้วแต่ ก็ต้องไม่มีการยกเว้นทั้งหมด ถ้าตัดสินจำคุกสิบปี ก็ต้องติดคุกเลย ไม่มีการรอลงอาญา หรือประกันตัวออกมา มันอาจจะแก้ไขไม่ได้ทั้งหมดแต่น่าจะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าใครที่คิดจะกระทำผิด ต้องพบกับบทลงโทษที่ร้ายแรงพอที่เขาจะไม่กล้ากลับมาโกงชาติบ้านเมืองได้อีกต่อไป
by air
เมืองไทยควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในหลายเรื่องอย่างจริงจังสักที ที่สำคัญที่ลืมไม่ใด้เลยคือข้อกฏหมายในการกระทำผิด และการคอรัปชั่น น่าจะมีบทลงโทษที่เด็ดขาด ไม่มีการผ่อนปรนแต่อย่างใด ไม่มีการว่าเป็นใหญ่เป็นโต หรือ เป็นลูกนักการเมืองเก่า หรือใครก็แล้วแต่ ก็ต้องไม่มีการยกเว้นทั้งหมด ถ้าตัดสินจำคุกสิบปี ก็ต้องติดคุกเลย ไม่มีการรอลงอาญา หรือประกันตัวออกมา มันอาจจะแก้ไขไม่ได้ทั้งหมดแต่น่าจะเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าใครที่คิดจะกระทำผิด ต้องพบกับบทลงโทษที่ร้ายแรงพอที่เขาจะไม่กล้ากลับมาโกงชาติบ้านเมืองได้อีกต่อไป
by air
กว่าจะถึง
วันนี้กลับบ้านเหนื่อยชะมัด รถก็ติด ต้องลงจากรถแท๊กซี่ เดินตั้งแต่หอสมุดแห่งชาติมาถึงสะพานซังฮี้ รถมอเตอร์ไซวินก็ไม่มีสักคัน เสงมาก พอมาถึงสะพานซังฮี้ก็เหนื่อยมากแล้ว แต่ต้องข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็มีรถมาพอดี เลยนั่งไป คราวนี้รถมอเตอร์ไซ เสื-อกพาไปอ้อมสายใต้ก่อนหนึ่งรอบ ( เวรกรรมจริงๆ )กว่าจะถึงบ้านใด้แค่ข้ามฝั่งก็ถึงแระแต่ เฮ้อ ไม่อยากจะsayแระ
by air
by air
ซีอุย
ซีอุย แซ่อึ้ง (เสียชีวิต 16 กันยายน พ.ศ. 2502) เป็นชื่อของฆาตกรที่ฆ่าเด็กและนำตับมาต้มกินในช่วงปี พ.ศ. 2497-2501 โดยมีเด็กอย่างน้อย 6 คนที่ถูกนายซีอุยสังหาร ซึ่งภายหลังถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน
ซีอุย อาศัยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาในเมืองไทยและขึ้นฝั่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง แต่คนไทยที่นั่นนิยมเรียกเพี้ยนเป็น ซีอุย ซีอุยทำงานด้วยการรับจ้างทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป มีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอ ๆ บุคคลิกชอบเก็บตัว และนายซีอุยได้จับเด็กมาผ่าเอาตับมากินโดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้ทำการฆ่าเด็ก 3 รายแรก ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสุดท้ายถูกจับได้หลังจากคดีฆาตรกรรมในจังหวัดระยอง ซึ่งสุดท้ายโดนจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2502 ก่อนถูกประหารซีอุยรับว่า เมื่อสมัยอยู่เมืองจีน ได้ถูกเป็นเกณฑ์เป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรกจากศพของเพื่อนทหารด้วยกัน จึงติดใจในรสชาติ เนื่องด้วยไม่มีอะไรจะกิน
ศพของซีอุยถูกเก็บเพื่อนำมาตรวจสอบ โดยเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยยังคงถูกเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิพิธภัณฑ์ซีอุย"
เรื่องราวของซีอุยได้ถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมาในสังคม และถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง
by www.wikipedie
ซีอุย อาศัยเป็นชาวจีนโพ้นทะเลเข้ามาในเมืองไทยและขึ้นฝั่งที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อจริงว่า หลีอุย แซ่อึ้ง แต่คนไทยที่นั่นนิยมเรียกเพี้ยนเป็น ซีอุย ซีอุยทำงานด้วยการรับจ้างทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป มีนิสัยชอบเกาหัวและหาวอยู่เสมอ ๆ บุคคลิกชอบเก็บตัว และนายซีอุยได้จับเด็กมาผ่าเอาตับมากินโดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ โดยได้ทำการฆ่าเด็ก 3 รายแรก ที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และสุดท้ายถูกจับได้หลังจากคดีฆาตรกรรมในจังหวัดระยอง ซึ่งสุดท้ายโดนจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2502 ก่อนถูกประหารซีอุยรับว่า เมื่อสมัยอยู่เมืองจีน ได้ถูกเป็นเกณฑ์เป็นทหารไปรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรกจากศพของเพื่อนทหารด้วยกัน จึงติดใจในรสชาติ เนื่องด้วยไม่มีอะไรจะกิน
ศพของซีอุยถูกเก็บเพื่อนำมาตรวจสอบ โดยเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยยังคงถูกเรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า "พิพิธภัณฑ์ซีอุย"
เรื่องราวของซีอุยได้ถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมาในสังคม และถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์หลายครั้ง
by www.wikipedie
วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
เลือกของใส่บาตร วันเกิด
วันอาทิตย์
อาหารคาว : ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คน ตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง
วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น
วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปาก กา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 (สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิก บุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล5 อย่าซื่อจนเกินไป
วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย ่าหมักหมม บาย
by forward mail
อาหารคาว : ประเภทไข่ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ลูกเขย ต้ม แกงกะทิ
อาหารหวาน : ไข่หวาน มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก้ว ขนมใส่กะทิ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะพร้าว น้ำขิง เงาะ
ของถวายพระ : หลอดไฟ ไฟฉาย เทียน ธูป อุปกรณ์แสงสว่าง แว่นตา หมากพลู
ไหว้พระ : ปางถวายเนตร ( พระประจำวันเกิด) กำลังวันเท่ากับ 6 (สวดแบบย่อ อะ วิช สุ นุส สา นุต ติ)
ทำทาน : เติมน้ำมันตะเกียงตามวัด คน ตาบอด โรงพยาบาลโรคตา มูลนิธิคนตาบอด โรงพยาบาลโรคหัวใจ มูลนิธิโรคหัวใจ
พฤติกรรม : ออกรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ช่วงเช้าหรือเย็นๆ เพื่อให้เกิดพลัง อย่าใจร้อน เลิกทิฐิ ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น
วันจันทร์
อาหารคาว : ประเภทสัตว์ปีก สัตว์น้ำ เช่นไก่ผัดขิง ไก่ย่าง ไก่ทอด ปูผัดผงกะหรี่ ปูนึ่ง ข้าวมันไก่ ข้าวผัดปู เต้าหูทอด แกงจืดเต้าหู้ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ปลาสลิดทอด
อาหารหวาน : น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง น้ำอ้อย โดนัท นมสด นมกล่อง เผือก มันลางสาด ขนมเปี๊ยะ
ของถวายพระ : แก้วน้ำ แจกัน ของโปร่งๆ ใสๆ
ไหว้พระ : ปางห้ามญาติ ( พระประจำวันเกิด) กำลังวัน เท่ากับ 15 ( สวดแบบย่อ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา)
ทำทาน : มูลนิธิช่วยเหลือสตรี
พฤติกรรม : ทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส อยู่เสมอ อย่าวิตกกังวลเกินเหตุ ให้ความช่วยเหลือสตรีเช่นลุก ให้สตรีนั่งบนรถเมล์บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกให้แข็งแรง
วันอังคาร
อาหารคาว : อาหารประเภทเส้น ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ ก๋วยเตี๋ยว เนื้อวัว ปลาช่อนตากแห้งทอด
อาหารหวาน : ฝอยทอง สลิ่ม ลอดช่อง ทุเรียน ระกำ ขนุน น้ำสไปร์ท น้ำอัดลม
ของถวายพระ : เหล็ก เครื่องมือประเภทเหล็ก กรรไกร แปรงสีฟัน ยาสีฟัน พัดลม กรรไกรตัดเล็บ
ไหว้พระ : ปางไสยาสน์ (พระนอน) มีกำลังเท่ากับ 8 (สวดแบบย่อ ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง)
ทำทาน : คนพิการทางปาก ปากแหว่ง ผู้ป่วยโรคลมชัก
พฤติกรรม : ทำตัวให้กระฉับกระเฉง ตื่นตัว ขยันให้มากขึ้น ลดอารมณ์ร้อน การชิงดีชิงเด่น
วันพุธ (กลางวัน)
อาหารคาว : เน้นสีเขียว-หมู แกงเขียวหวานหมู หมูปิ้ง หมูทอด ผัดพริกหมู คะน้าน้ำมันหอย
อาหารหวาน : ขนมเปียกปูนเขียว น้ำฝรั่ง ชมพู่เขียว องุ่นเขียว มะม่วงเขียวเสวยฝรั่ง ชามะนาว
ของถวายพระ : สมุด กระดาษ ปาก กา ดินสอ อุปกรณ์การเรียนการศึกษา
ไหว้พระ : ปางอุ้มบาตร (พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 17 (สวดแบบย่อ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท )
ทำทาน : คนพิการทางหู โรงพยาบาลโรคสมอง โรงเรียนสอนคนหูหนวก
พฤติกรรม : อ่านหนังสือธรรมะ ร้องเพลง ฝึกสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
วันพุธ (กลางคืน)
อาหารคาว : ของหมักดอง ผักกาดดองผัดไข่ อาหารกระป๋อง แกงใบยอ หมูยอ แหนม ไข่เยี่ยวม้า ห่อหมก
อาหารหวาน : ข้าวหมาก ขนมเปียกปูนดำ เฉาก๊วย ข้าวเหนียวดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผลไม้หัวโตๆ ทุเรียน
ของถวายพระ : พัดลม เทปธรรมะ ยาแก้โรคลม ยาหอม
ไหว้พระ : ปางป่าเลไลย์ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 12 (สวดแบบย่อ คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ )
ทำทาน : มูลนิธิหรือหน่วยงานที่เกี่ยวกับยาเสพติด
พฤติกรรม : เลิก บุหรี่ เลิกดื่มหรือลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เลิกการพนัน เลิกทำตัวเหลวไหล เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกยาเสพติดทุกชนิด
วันพฤหัสบดี
อาหารคาว : ประเภทเถา แกงเลียง บวบผัดไข่ น้ำเต้า
อาหารหวาน : แตงโม แตงไทย น้ำสมุนไพร ส้ม สาลี่ น้ำมะตูม น้ำว่านหางจระเข้
ของถวายพระ : สบง จีวร หนังสือธรรมะ ตู้ยา โต๊ะหมู่บูชา
ไหว้พระ : ปางสมาธิ ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 19 ( สวดแบบย่อ ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ)
ทำทาน : โรงพยาบาลสงฆ์ บริจาคข้าวสาร เสื้อผ้า ผ้าห่มกันหนาว
พฤติกรรม : นั่งสมาธิ สวดมนต์ ถือศีล5 อย่าซื่อจนเกินไป
วันศุกร์
อาหารคาว : ประเภทของหอม หวาน ข้าวหอมมะลิ ผักกาดหอม ไข่เจียวหอมใหญ่ ยำหัวหอม
อาหารหวาน : ขนมหวาน หอมทุกชนิด น้ำเก๊กฮวย ผลไม้ที่มีกลิ่นหอม กล้วยหอม เค้ก
ของถวายพระ : นาฬิกา โต๊ะรับแขก ดอกไม้สวยหอม ระฆัง ย่าม
ไหว้พระ : ปางรำพึง ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 21 ( สวดแบบย่อ วา โธ โน อะ มะ มะ วา)
ทำทาน : เด็กด้อยโอกาส ให้เงิน ให้เสื้อผ้า อาหารที่หอมหวานชวนกิน เช่น ไอศกรีม
พฤติกรรม : ทำตัวให้สดชื่นแจ่มใส บำรุง ดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอด จัดสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่ สวยงาม เลิกการฟุ่มเฟือย
วันเสาร์
อาหารคาว : ประเภทของขม ของดำมะระยัดไส้ สะเดาน้ำปลาหวาน น้ำพริกปลาทู มะเขือยาว
อาหารหวาน : ลูกตาลเชื่อม กาแฟ โอเลี้ยง
ของถวายพระ : ร่มสีดำ กระเบื้องมุงหลังคา ไม้กวาด สร้างห้องน้ำถวายวัด
ไหว้พระ : ปางนาคปรก ( พระประจำวันเกิด) มีกำลังเท่ากับ 10 ( สวดแบบย่อ โส มา ณะ กะ ระ ถา โธ)
ทำทาน : โรงพยาบาลโรคจิต โรงพยาบาลโรคประสาท
พฤติกรรม : กวาดลานวัด ล้างห้องน้ำวัด ไม่เครียด มองโลกในแง่ดี ขยะในบ้านยกทิ้งทุกวัน อย ่าหมักหมม บาย
by forward mail
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)